นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ

           กลุ่มบริษัทเอเอ็มพี อินเตอร์เนชั่นแนล (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า บริษัท) ประกอบด้วย บริษัท เอเอ็มพี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  ให้ความสําคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวสําหรับพันธมิตรทางธุรกิจฉบับนี้ อธิบายวิธีการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร บุคคลผู้ได้รับมอบอํานาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น ของพันธมิตรทางธุรกิจและผู้ติดต่ออื่น ๆ ของพันธมิตรทางธุรกิจ (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า ท่าน) และแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ พันธมิตรทางธุรกิจตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียงลูกค้าบุคคลธรรมดา ลูกค้าองค์กร/ นิติบุคคล ผู้จัดจําหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ

          บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับท่านในปัจจุบัน หรืออาจมีความสัมพันธ์กับท่านเพื่อธุรกิจในอนาคต หรือเนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจที่ท่านทํางานให้ ดําเนินการแทน หรือเป็นตัวแทน เช่น พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทที่จัดหาสินค้าหรือให้บริการแก่บริษัท หรือที่บริษัทติดต่อสื่อสารด้วยในทางธุรกิจซึ่งอาจเกี่ยวพันถึงท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านที่สามารถระบุตัวตนท่านได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (ไม่รวมข้อมูลของบุคคลที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว) โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ ตามที่ระบุในข้อ 2

ข้อมูลส่วนตัว เช่น

     • ชื่อ-นามสกุล คํานําหน้า อายุ เพศ

     • รูปถ่าย วิดิโอ ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด พิกัดทาง ภูมิศาสตร์

     • วันเดือนปีเกิด สัญชาติ สถานภาพการสมรส

     • ข้อมูลสถานภาพทางการเงิน เช่น ข้อมูลหนังสือรับรองฐานะทาง การเงิน ข้อมูลเครดิต แหล่งที่มาของเงินได้ สินทรัพย์ถาวร และหนี้สิน

     • ข้อมูลด้านการศึกษาและการทํางาน เช่น ตําแหน่ง งาน แผนก อาชีพ

     • ข้อมูลใบสมัครงาน บริษัทที่ท่านทํางานให้หรือจ้างงานท่าน ข้อมูลการอบรม รายได้และเงินเดือน

     • ข้อมูล จากเอกสารราชการ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจําตัวผู้เสียภาษีอากร หมายเลข ใบขับขี่ หมายเลขทะเบียนบ้าน

    • ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เช่น หมายเลขตัวถังหรือหมายเลขทะเบียนรถยนต์

    • ลายมือชื่อ (รวมถึงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์)

    • ข้อมูลรหัสประจําตัวคู่ค้า (รวมถึง ประเภทคู่ค้า)

    • ข้อมูลบัญชีธนาคารและ การชําระเงิน เช่น ชื่อเจ้าของบัญชี ธนาคารที่เปิดบัญชี ประเภทบัญชี และหมายเลขบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีผู้รับประโยชน์ วันที่ชําระเงิน วิธีการชําระเงิน สกุลเงินที่ชําระ และบัญชีที่ทําการชําระเงิน รายละเอียดการโอนเงินใน/นอกประเทศไทย

    • ข้อมูลระบุตัวบุคคลอื่น เช่น ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ไลน์

    • ข้อมูลที่ดินที่ท่านเป็นเจ้าของ เช่น หมายเลขหนังสือสําคัญ แสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

ข้อมูลที่อยู่ติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล และข้อมูลอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน

ข้อมูลอื่น ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทตามที่ ปรากฏในสัญญา แบบฟอร์ม หรือแบบสํารวจ

ข้อมูลทางธุรกรรมที่ท่านทํากับบริษัท เช่น เมื่อทําสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง หรือสัญญาให้บริการขนส่งสินค้า

ข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ข้อมูลที่ระบุตัวตนคู่สมรสหรือบุตรของท่าน ข้อมูลพนักงานของ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลการจดจํา ใบหน้า และลายนิ้วมือ ข้อมูลสุขภาพหรือสภาพร่างกายหรือจิตใจ และประวัติอาชญากรรม ทั้งนี้ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ที่ละเอียดอ่อนจากบัตรประจําตัวประชาชน เช่น เชื้อชาติ และ ศาสนา

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหลายๆ ช่องทางซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

           • จากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านทําธุรกิจกับบริษัท หรือลงนามในสัญญาหรือกรอกแบบฟอร์มเมื่อท่านมี ปฏิสัมพันธ์กับบริษัท รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัท ผ่านเว็บไซต์ของ บริษัทหรือแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือ การติดต่อสื่อสารทางอีเมล โทรศัพท์ แบบสอบถาม นามบัตร ไปรษณีย์ ระหว่างการประชุมและงานกิจกรรมต่าง ๆ หรือเมื่อบริษัทไปพบท่าน

          • จากพันธมิตรทางธุรกิจที่ท่านทํางานให้ ดําเนินการแทน หรือเป็นตัวแทน

          • จากกลุ่มบริษัทเอเอ็มพี อินเตอร์เนชั่นแนล หรือบุคคลภายนอก เช่น พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น ๆ ของบริษัท จากแหล่งข้อมูลในระบบ ระบบไดรฟ์กลางฐานข้อมูลกลางของบริษัทหรือระบบซอฟท์แวร์ขนส่ง และ/ หรือ ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์

          บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน โดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายฐานการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายฐานความยินยอม หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนดแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

     • การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารกับพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับสินค้า บริการ และ โครงการต่าง ๆ ของบริษัท หรือพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านการส่งเอกสาร การตอบ คําถาม การตอบกลับคําขอหรือการรายงานความคืบหน้าการดําเนินการ

     • การเลือกพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่านและพันธมิตร ทางธุรกิจ การยืนยันตัวตนของท่านและสถานะการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ การตรวจสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติในรูปแบบอื่น ๆ หรือการประเมินความเสี่ยงสําหรับท่านและพันธมิตร ทางธุรกิจ รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และ/หรือ จากบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของบริษัท การออกคําขอเสนอราคาและประมูลราคา การเข้าทําสัญญากับท่าน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ การประเมินการบริหารงานของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ

     • การจัดการข้อมูลของพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การสร้างบัญชีพันธมิตรทางธุรกิจ การบันทึกข้อมูลลงใน ระบบ การรักษาและการปรับปรุงรายการ/สารบบของพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน การเก็บและบริหารจัดการสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องที่อาจมีชื่อของท่านอยู่

     • การบริหารจัดการความสัมพันธ์ เช่น การวางแผน การดําเนินการ และการบริหารจัดการความสัมพันธ์ และสิทธิทางสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การพิจารณาแต่งตั้ง ยกเลิก หรือมอบอํานาจให้พันธมิตรทางธุรกิจสําหรับการทําธุรกรรมต่าง ๆ หรือการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การประมวลผลการชําระเงิน การทํากิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การตรวจสอบบัญชี การออกใบเรียกเก็บเงินและการเก็บเงิน การจัดการให้มีการขนส่งและจัดส่ง การให้บริการสนับสนุน

     • การวิเคราะห์ธุรกิจและการปรับปรุงธุรกิจ เช่น การทําวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสํารวจ และการทํารายงานเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทและผลการดําเนินงานของท่านหรือของพันธมิตรทางธุรกิจ การพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดและสินค้าและบริการ

     • ระบบและการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และฝ่ายช่วยเหลือ บริหารจัดการการเข้าถึงระบบใด ๆ ที่บริษัทได้มอบสิทธิในการเข้าถึงให้แก่ท่าน การลบบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน การใช้มาตรการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้สามารถดําเนินธุรกิจได้ และเพื่อให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทและเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระบบของบริษัททําการพัฒนา ปรับใช้ ดําเนินการ และดูแลรักษาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ

     • การตรวจสอบดูแลระบบและความมั่นคงปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนและการควบคุมการเข้าถึงตามที่ เกี่ยวข้อง การตรวจสอบดูแลระบบ อุปกรณ์ และอินเทอร์เน็ต การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม รวมถึงการจัดการความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง การรายงานอุบัติเหตุ

     • การจัดการกับข้อพิพาท เช่น การยุติข้อพิพาท การบังคับใช้สัญญา การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การก่อตั้ง การใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย รวมถึงการมอบอํานาจ

     • การบริหารจัดการและการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภายในองค์กร รวมถึงการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ภายในองค์กร และปฏิบัติตามข้อกําหนดทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะ การจัดซื้อ จัดจ้าง การเบิกจ่ายเงิน การจัดการภายใน การฝึกอบรม การตรวจสอบ การรายงาน การส่งหรือจัดการเอกสาร การประมวลผลข้อมูล การควบคุม หรือการจัดการความเสี่ยง การวิเคราะห์และการวางแผนทางสถิติและแนวโน้มต่าง ๆ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงหรือเกี่ยวข้องกัน

     • การปฏิบัติตามนโยบายภายในและกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงข้อบังคับ ระเบียบและแนวทางปฏิบัติต่างๆ เช่น เพื่อขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายกําหนด และการประสานงานหรือการติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล ศาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รวมถึงการสืบสวน การร้องเรียน และ/หรือ การป้องกันอาชญากรรม หรือการฉ้อโกง

     • วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น แจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับข่าวสารและข้อมูลเผยแพร่ที่อาจมีประโยชน์ รวมถึงกิจกรรม เสนอบริการใหม่ๆ เจรจาต่อรองราคาสินค้าและบริการ และทําผลการสํารวจ รวมถึงเพื่อวิเคราะห์และพิจารณาในการสนับสนุนทางการเงิน เช่น การให้สินเชื่อ แก่ท่านหรือพันธมิตรทางธุรกิจ

     • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ ละเอียดอ่อนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่ต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย เช่น เพื่อประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อยืนยันตัวตนตามข้อมูลที่ได้รับจากบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบยืนยันตัวตนในการเข้ารับผลิตภัณฑ์และสินค้าในคลังของบริษัท เพื่อบันทึกข้อมูลลงในระบบ เพื่อจัดงานอบรมสัมมนา เพื่อพิจารณาและบริหารกิจกรรมการจ้างงาน เพื่อลงทะเบียนหรือเปิดบัญชีคู่ค้า และ/หรือ บุคคลที่เกี่ยวข้องลงในระบบ เพื่อดําเนินการสืบสวนหรือ สอบสวนทางวินัย และเพื่อประสานงานกับหน่วยงานและหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับสินค้าที่โรงงาน เพื่อจัดให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร

 

           หากบริษัทมีความจําเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกําหนด หรือเพื่อเข้าทําหรือปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน แต่ท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ บริษัทอาจไม่สามารถดําเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้นได้

 

          ในกรณีที่บริษัทมีความจําเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านในการดําเนินกิจกรรมที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในเรื่องดังกล่าวเป็นรายกรณีไป

           บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่น เช่น บริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มบริษัทเอ ไอ พี พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น ของบริษัท ผู้ให้บริการจากภายนอกที่บริษัทว่าจ้างมา เช่น ผู้ให้บริการระบบขนส่ง ผู้ให้บริการอบรมสัมมนา ผู้ให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ผู้รับเหมา ผู้ให้บริการคลาวค์ ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล และที่ปรึกษา

 

          ในบางกรณี บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกํากับดูแล หรือบุคคลอื่นเมื่อบริษัทมีเหตุอันควรเชื่อว่าจําเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน และแก้ไขปัญหา การฉ้อโกงหรือปัญหาด้านความมั่นคงปลอดภัย หรือในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การโอนสิทธิ การเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ หรือการจําหน่ายกิจการ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือการทํา ธุรกรรมที่คล้ายกัน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือหน้าที่ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อเป็นการเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน

          บริษัทอาจต้องเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย เช่น เมื่อบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือ เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย หรือเพื่อใช้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

 

          เมื่อมีความจําเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดําเนินการเพื่อให้มั่นใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือดำเนินการให้มั่นใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลได้ เช่น บริษัทอาจต้องได้รับคํายืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนว่าข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย

 

          หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอนไปยัง ต่างประเทศ โปรดติดต่อบริษัทตามรายละเอียดในหัวข้อ “ติดต่อบริษัท”

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จําเป็นเพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัท ได้รับข้อมูลมาและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้น ตามที่กฎหมายกําหนด

ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกําหนดและภายใต้กระบวนการจัดการสิทธิของบริษัทสิทธิ ท่านอาจมีสิทธิต่อไปนี้

           • ขอเข้าถึง ขอรับสําเนาของข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน

           • ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

           • ขอให้ลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทําให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวตน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

           • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของให้แก่ท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทํางานได้โดยอัตโนมัติ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลนั้นไปยังองค์กรอื่น

           • คัดค้านไม่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

           • ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ต้องอาศัยความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อ

หากท่านต้องการใช้สิทธิใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น โปรดติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดในหัวข้อ “ติดต่อบริษัท”

          ทั้งนี้ อาจมีกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องจํากัดการใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้น หรืออาจมีบางกรณีที่บริษัทสามารถปฏิเสธ คําขอของท่านได้ตามสมควรและโดยชอบ เช่น ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือ คําสั่งศาล โดยหากบริษัทปฏิเสธคําขอของท่านด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทจะแจ้งเหตุผลให้ท่านทราบ

 

          หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัทเป็นการละเมิดกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม หากท่านมีข้อร้องเรียนใด ๆ โปรดติดต่อบริษัทเป็นลําดับแรกก่อนที่ท่านจะติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โอกาสบริษัทในการดําเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่านอย่างเหมาะสม

          บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการ ป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึง หรือ ควบคุมการเข้าถึงข้อมูล  ส่วนบุคคลเพื่อธํารงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอํานาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกําหนด

 

          บริษัทได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สําหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทยังได้วางมาตรการจํากัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สําหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกําหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทําสําเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางมาตรการสําหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้ สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          บริษัทอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวหากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขบน www.amp-inter.com อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมที่จะกระทำได้ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลบังคับใช้

หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคของท่าน ภายใต้นโนบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัท หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้มูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ที่

โทร : 0 2811 9045-6

Line : @ampinternational

Email : amp@amp-inter.com

Facebook : AMP International Co., Ltd.